วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

วาง5แนวทาง ปรับปรุง เดินเรือคลอง'แสนแสบ'

Pic_370168

กทม. สั่งเพิ่ม 5 แนวทาง เสริมประสิทธิภาพเดินเรือในคลองแสนแสบ ส่วนต่อขยาย "วัดศรีบุญเรือง-มีนบุรี" เพื่ออำนวย ความสะดวกให้ประชาชน
วัน ที่ 16 ก.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 15/2556 ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกทม. หารือแนวทางดำเนินการ โครงการจ้างทดลองเดินเรือในคลองแสนแสบ ส่วนต่อขยาย "วัดศรีบุญเรือง-มีนบุรี" ซึ่งจากการทดลองการเดินเรือในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการลงพื้นที่ตรวจการ เดินเรือในคลองแสนแสบ ของปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. 56 จึงได้พิจารณาแนวทางปรับการบริการ ดังนี้
ปรับเวลาการเดินเรือ ด้วยการปรับปรุงประตูระบายน้ำ บางชัน ให้เรือสามารถแล่นผ่านได้ภายในเวลา 5-10 นาที เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน โดยไม่ต้องขึ้นจากเรือแล้วเดินผ่านประตูน้ำบางชัน เพื่อเปลี่ยนเรือ เร่งก่อสร้างเขื่อนถาวรตลอดเส้นทาง หากมีเขื่อนถาวรแล้วเรือสามารถทำความเร็วได้ จะช่วยลดเวลาการเดินทาง และเพิ่มเวลาให้บริการช่วงเย็น จากเวลา 19.30 น. ไปถึงเวลา 20.00 น. เพื่อรองรับประชาชน ให้ไปสิ้นสุดพร้อมกัน กับเวลาการเดินเรือในเส้นเดิม
ปรับ ปรุงบริเวณท่าเรือและทางเข้าออก ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ทางเข้าออกท่าเรือให้มีความสวยงาม สะดวก ปลอดภัย ติดตั้งไฟแสงสว่างจากทางเข้าจนถึงท่าเรือ จัดสายตรวจเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัย และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ
นอกจากนี้ ในระยะยาวให้พิจารณาจัดรถจักรยาน ที่มีตะกร้าใส่ของ พร้อมจุดจอดตามความเหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ติดตั้งป้ายบอกทางเข้าท่าเรือ และป้ายแสดงเวลาเดินเรือ และติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณท่าเรือ และส่วนต่อเนื่อง ปรับปรุงเรือโดยสาร ให้มีการศึกษารูปแบบเรือที่มีคุณภาพสูง คลื่นน้อย ลดมลพิษ ราคาสมควรและมีความเหมาะสมที่สุด ลดปัญหาผลกระทบจากการเดินเรือ ได้แก่ คลื่นและเสียง ให้บริหารจัดการการเดินเรือที่ทำให้เกิดคลื่นและเสียงน้อยที่สุด
การ เปลี่ยนเรือบริเวณประตูน้ำบางชัน หากมีการปรับปรุงประตูน้ำบางชัน ให้เรือสามารถแล่นผ่านได้โดยประชาชนไม่ต้องขึ้นจากเรือแล้วเดินผ่านประตูน้ำ บางชันเพื่อเปลี่ยนเรือเป็นการเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงขอความร่วมมือจากเอกชน ให้เกิดการเดินเรืออย่างถาวร ซึ่งจะมีการให้ศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมในการให้เอกชนบริหารจัดการเดินเรือต่อไป

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/region/370168

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น